ทีนี้คุณคงเห็นความสำคัญอันยิ่งใหญ่ ยวบยวดของ Mascara อันทำให้ขนตาเราเด้งดึ๋งดั๋ง ดุ๊กดิ๊กกันแล้วสินะ เอ้ ว่าแต่ว่าคุณรู้หรือไม่ว่าผู้มีพระคุณของเราอันนี้มันมีประวัติความเป็นมาอันยาวน้าาานนนนมาก ๆ ฮั่นแน่อยากรู้แล้วชิมิ
เราไปเจอบทความนี้จาก makeup lovetoknow.com เขียนโดย คุณ Jodie Michalak
Mascara ไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ที่พึ่งมีมา หรือถือกำเนิดขึ้นในยุคสมัยใหม่นี้ไม่ มันมีมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ ประมาณ 3400 ปีก่อนคริตกาล, ชาวอียิปต์ใช้กระดูก งาช้าง ผสมกับอึจระเข้และน้ำผึ้งเพื่อทำขึ้นมา เรียกว่า Khol (มาจากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารเคมีปนเปื่อนเจือปน) และก็ไม่ได้ใช้เพื่อความงามเท่านั้น พวกเขายังเชื่อกันว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของชีวิต ฉะนั้นการปัด Mascara ช่วยป้องกันไม่ให้วิญญานออกจากร่าง ขับไล่วิญญาณชั่วร้าย และพลังงานที่ไม่ดี ผู้ชายก็อียิปต์ปัดมาสคาร่าเช่นเดียวกับหญิงตามภาพวาดโบราณของคลีโอพัตรา และพระนางยังมีรับสั่งให้นำมาใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในงานเฉลิมฉลอง สงคราม และความตาย (คาดว่าน่าจะใช้เพื่อให้วิญญาณอยู่กับร่างมัมมี่ -- ความเห็นส่วนตัว) (และความเห็นส่วนตัวอีกอย่างคือสูตร Mascara นี้น่าจะเป็นส่วนที่นำมาเขียนขอบตา เหมือน eye liner แบบอียิปต์ ดัวยวัตถุประสงค์เดียวกัน)
จากนั้นมาจนกระทั่งศตวรรษที่ 19 มีนักเคมีชื่อ Eugene Rimmel ได้พัฒนาคิดค้นเครื่องสำอางตัวใหม่จากการใช้ปิโตรเลียมเจลลี่ ในชื่อ Rimmel (ซึ่งต่อมาชื่อนี้กลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่ง และยังแปลว่า Mascara ในภาษาอิตาลี, โปรตุเกส, สเปน, กรีซ, ตุรกี, โรมาเนีย และ เปอร์เซีย จนทุกวันนี้)
และในศรรตวรรษเดียวกัน ในปี 1913 ได้มีผู้ชายคนหนึ่งในอเมริกา ชื่อ T.L.Williams ได้ทำมาสคาร่าขึ้นจาก ถ่านหิน และ ปิโตรเลียมเจลลี่ ขึ้นมาเพื่อน้องสาวของเขา Maybel และต่อมาก็เป็นที่นิยมมากเมื่อน้องสาวของเขามีดวงตากลมโต โดดเด้งขึ้นมา เขาจึงเริ่มทำธุรกิจขาย โดยการสั่งซื้อทางไปรษณีย์ ในปี 1917 และกลายมาเป็นบริษัท Maybelline ในเวลาต่อมา
Mascara ยุคแรก ๆ จะเป็นตลับ และมีแปรงใช้สำหรับฝนขนตา เรียกว่า Cake Mascara
หลังจากนั้นก็ถูกพัฒนาขึ้นอีกโดย 2 สาว Elizabeth Arden and Helena Rubinstein
โดยครั้งแรก Helena Rubinstein ได้ทำขึ้นให้อยู่ในหลอดเหมือนยาสีฟัน แล้วบีบใส่แปรงปัด และต่อมา Elizabeth Arden ก็ได้ทำให้เป็นรูปแบบมีแปรงแล้วจุ่มอยู่ในหลอด เหมือนปัจจุบัน
ขอบคุณข้อมูลจาก
รายการ Divas cafe/voice tv
wikipedia.com
makeup love to know.com
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
ตอบลบ